วิธีใช้ยารักษาสิว ตามประเภทของสิวที่แตกต่างกันออกไป

“สิว” ปัญหาจุกจิกกวนใจใครหลายคน โดยเฉพาะวัยรุ่นที่พึ่งแตกหนุ่มแตกสาว บางรายถึงกับต้องพึ่งหมอพึ่งยารักษาสิวกันเป็นเรื่องเป็นราวแต่ก็ยังไม่หายขาดสักที จริงๆแล้วสิวแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของการขึ้นตามบริเวณต่างๆ ซึ่งมีวิธีควบคุมและใช้ยารักษาสิวที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เรามาเรียนรู้กันว่าสิวแต่ละประเภทมีลักษะเป็นอย่างไร ต้องใช้ยารักษาสิวแบบใดจึงจะเหมาะสม



1.สิวอุดตัน
สิวไม่มีหัวหรือเป็นตุ่มสีออกแดงมีอาการเจ็บบ้าง และสามารถขยายใหญ่เป็นสิวอักเสบได้ เป็นการอุดตันในรูขุมขนเสียส่วนมาก ซึ่งเกิดจากไขมันที่ผลิตออกมาสะสม หรือเกิดจากผลกระทบของครีม และเครื่องสำอางค์
ประเภทยารักษาสิวอุดตัน
ครีมทาสิวอุดตัน กลุ่ม Retin-A เป็นยาที่ใช้กันแพร่หลาย มักเรียกกันว่า ยาละลายสิวอุดตัน มีความเข้มข้นแตกต่างกัน ตั้งแต่ 0.025-0.1% โดยพบว่ายิ่งความเข้มข้นสูงยิ่งละลายสิวอุดตันได้ดี แต่ก็จะระคายเคืองผิวหน้า โดยตัวยาที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ คือ Tretinoin หรือ Retinoic acid และมีสารอื่นๆประกอบอีกจำนวนหนึ่ง เป็นยาที่ใช้ทาบริเวณผิวหน้า มีทั้งชนิดเจลและครีม
2.สิวเสี้ยน
สิวเสี้ยนเป็นปัญหาที่พบบ่อย เกิดจากความผิดปกติของต่อมรูขุมขน มีลักษณะคล้ายสิวอุดตันหัวดำ (Black comedone ) แต่จะมีกระจุกเซลล์ขนแทรกอยู่ด้วยลักษณะเป็นจุดดำๆ บริเวณจมูก หน้าผาก หรือข้างแก้ม
ประเภทยารักษาสิวเสี้ยน
1.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA ซึ่งช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตกค้างออก และลดการเกิดสิวเสี้ยนได้
2.ใช้ยาที่เป็นกรด เช่น เรติโนอิก(Retinoic acid) ขนาด 0.05% หรือ 0.1% ซึ่งเป็นยาละลาย ทาบางๆ วันละครั้งตอนก่อนนอน ยานี้อาจระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำให้หน้าแดงและลอกเป็นขุย นอกจากนี้อาจทำให้แพ้แดดได้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการถูกแดดจัดๆ
3. Retin-A, Avita, Renova ล้วนเป็นอนุพันธ์จากวิตามินเอทั้งสิ้น และได้รับการนำมาใช้เป็นยารักษาสิวที่เป็นหัวขาวหรือหัวดำ ช่วยทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ตุ่มสิวหายอุดตันโดยทำให้เกิดการดันเอาสิ่งอุดตันออกมาจากรูขุมขน

10617486_10203112936636580_1831755890_n

สิวอักเสบ
เป็นสิวที่ได้ถูกพัฒนาได้จากสิวชนิดอื่นๆ หรือว่าไปทำการบีบแล้วหัวออกไม่หมดรวมไปถึงการระคายเคืองได้รับแบคทีเรียเข้าไป
ประเภทยารักษาสิวอักเสบ
“Doxycycline” เจ้ายา Doxycycline จัดเป็นยาฆ่าเชื้อที่หมอนิยมจ่ายให้คนไข้ที่เป็นสิวอักเสบมากๆและรุนแรงมากๆ และเคยเริ่มต้นให้การรักษาด้วยยาตัวอื่นๆแล้ว แต่ได้ผลไม่ค่อยดี ซึ่ง Doxycycline มีฤทธิ์ในการไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนของเราและเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว จริงๆแล้วยาฆ่าเชื้อสิวนั้นจะมีอยู่หลายตัวม๊วกๆ ซึ่งต้องใช้ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ โดยทั่วไปช่วงเริ่มแรกก็จะกินวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด ทันทีหลังกินข้าว แต่พอใช้ไปได้ระยะนึงอาจจะลดมาเป็นวันละ 1 ครั้ง ระยะเวลากินทั่วไปจะประมาณ 3-6 สัปดาห์ แต่ถ้าจะให้เห็นผลต้องใชนานถึง 6-8 สัปดาห์
สิวผด
สิวผดจัดเป็นสิวที่มีลักษณะคล้ายผดผื่นเล็กๆและแหลม โดยพบว่ามักจะดูเรียบหรือดีขึ้นในตอนเช้า และจะเห่อในตอนบ่ายๆ ผื่นอาจมีสีแดงและคันได้ หากล้างหน้าบ่อยมักเป็นมากขึ้น และหากรักษาไม่ถูกต้องยิ่งทวีอาการมากขึ้น บริเวณที่พบได้บ่อยคือบริเวณหน้าผาก และขมับ
ประเภทยารักษาสิวผด
1.ยาในกลุ่ม Benzoyl Peroxide โดยควรเริ่มจากการทาความเข้มข้นที่ต่ำที่สุดก่อน คือ 2.5% ทำการทาลงไปบนบริเวณที่มีสิวผด ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5-20 นาที แล้วล้างออก สามารถทำการทาได้วันละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของของแต่ละคน เมื่อทำการทดสอบแล้วว่าไม่มีอาการแพ้ จึงค่อยเพิ่มความเข้มข้นของยาไปที่ 5%
2.ยาทากรดวิตามินเอ ควรเริ่มจากการทายาที่มีความเข้มข้นต่ำที่สุดก่อนเช่นกัน คือ 0.0125% หรือ 0.025% เมื่อไม่มีอาการแพ้ใดแล้วจึงค่อยๆทำการเพิ่มความเข้มข้นไปเป็น 0.05% และควรทำการทาก่อนนอนเท่านั้น ไม่ควรทำการทางในช่วงเวลากลางวัน เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้แดดขึ้นได้
Share on Google Plus

About Unknown

รวบรวมความรู้กับความสวยงาม สุขภาพ นำมาให้ผู้อ่านกันทุกท่าน
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments:

แสดงความคิดเห็น